การปลูกผักสลัดปลอดสารพิษระบบน้ำนิ่ง ผักไฮโดรโปนิกส์

การปลูกผักสลัดปลอดสารพิษระบบน้ำนิ่ง ผักไฮโดรโปนิกส์

     กระแสคนรักสุขภาพที่มาแรงในขณะนี้เริ่มเห็นผู้คนหันมาดูแลใส่ใจกับตัวเองอย่างจริงจังมากขึ้น ทำให้ยอดขายสินค้าสุขภาพเลยพุ่งตามไปติดๆ ผักสด ผลไม้ปลอดสารพิษดูเหมือนจะได้รับความนิยมมากขึ้นด้วย จนกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจในฝันของใครหลายคนที่คิดเอาไว้ว่า วันหนึ่งอยากจะทำฟาร์มผักเล็กๆ ของตัวเอง โดยเฉพาะผักสลัดที่กำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ เพราะสามารถนำไปดัดแปลงเป็นเมนูได้หลากหลาย ที่สำคัญยังขายได้ราคาดีอีกด้วย

     การปลูกพืชด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ ( Hydroponics) หมายถึง การปลูกพืชลงบนสารละลายธาตุอาหารพืช โดยให้รากพืชสัมผัสกับสารละลายโดยตรง จุดเด่นของระบบการปลูกแบบนี้มีทั้งในด้านมาตรฐาน ปริมาณ และคุณภาพของผลผลิต ในส่วนของมาตรฐานนั้นดีแน่นอนเนื่องจากเราสามารถคัดเลือกต้นกล้าที่ดีไปปลูก ได้ ด้านปริมาณเราก็สามารถผลิตได้มากเนื่องจากใช้เวลาปลูกน้อยกว่าการปลูกในดิน จำนวนรอบการผลิตรวมต่อปีจะมากขึ้นถ้าเทียบในระยะเวลาที่เท่ากัน ซึ่งหลายคนคงจะคิดว่า การปลูกพืชแบบนี้ เป็นเรื่องยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ตอนนี้คงต้องลบความคิดเก่าๆ เหล่านี้ออกไปก่อน เพราะด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้สะดวกสบายมากขึ้น ในการที่จะปลูกผักไว้รับประทานเองเพื่อสุขภาพที่ดีทุกวัน ที่สำคัญวิธีการปลูกก็ง่ายแสนง่ายด้วยชุดปลูกระบบไฮโดรโปนิกส์ สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของสถานที่ และความต้องการของเราเอง

     ผักสลัดที่นิยมปลูกและรับประทานกันมากในปัจจุบันมีอยู่ 6 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค คอส ฟิลเลย์ บัตเตอร์เฮด ปัตตาเวีย วิธีการที่นิยมใช้กัน คือ การปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ ถ้าจะให้พูดเข้าใจกันง่ายๆ ก็คือ การปลูกพืชไร้ดิน โดยใช้น้ำที่ผสมสารอาหารและแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อพืชหล่อเลี้ยงพืชให้เจริญเติบโต ซึ่งข้อดีของการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ คือ ใช้เวลาในการเตรียมพื้นที่ปลูกน้อย หากเป็นดินต้องมีการเตรียมดินและกำจัดวัชพืช นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการให้สารอาหารได้ดีและทั่วถึงกว่า ทำให้สามารถกำหนดขนาดของพืชให้เติบโตใกล้เคียงกันได้

5 ขั้นตอนของการปลูกผักไร้ดินระบบน้ำนิ่ง

1. การเพาะเมล็ดในห้องมืด 2 คืน
   
   • โดยเวลาที่เหมาะสมในการเพาะเมล็ดคือหลัง 4 โมงเย็น
     
   • นวดฟองน้ำให้มีน้ำสำหรับในการเพาะเมล็ด
     
   • วิธีการใส่เมล็ดผักสลัดควรใส่ 1 เมล็ด และเมล็ดต้องเสมอกับผิวฟองน้ำ
     
   • ฉีดสเปรย์น้ำให้ทั่วฟองน้ำ และเก็บไว้ในห้องมืด 2 คืน
2. การนำเมล็ดออกแดดยามเช้า 5 วัน
   • ฉีดสเปรย์น้ำให้ทั่วฟองน้ำ
   • เติมน้ำลงในถาดให้ได้ ½ ของฟองน้ำ
3. การเสียบต้นกล้าและการเติมปุ๋ย
   • ควรเตรียมน้ำในกล่องปลูกพร้อมปุ๋ยก่อนลงต้นกล้า 1 วัน (ปุ๋ยที่ใช้ในปริมาณที่เท่ากัน คือปุ๋ย A ใช้เท่าไหร่ ปุ๋ย B ใช้เท่านั้น)
   • เสียบต้นกล้าโดยการสัมผัสรากให้น้อยที่สุด
   • ฟองน้ำทุกชิ้นจะต้องโดนน้ำ เมื่อวางลงบนกล่องปลูก
4. การเติมน้ำเปล่า
   • เมื่อครบ 25 วัน ระดับน้ำในกล่องจะลดลงให้เติมน้ำเปล่าลงใปในระดับครึ่งกล่องปลูก
   • ก่อนการเก็บเกี่ยว 2 วันควรดูดน้ำในกล่องออกให้หมดแล้วเติมน้ำเปล่าในระดับครึ่งกล่อง
5. การเก็บเกี่ยว
   • ควรเก็บผักไฮโดรโปนิกส์ในวันที่มีแดด และควรเป็นช่วงบ่าย เพราะไนเตรทจะต่ำลง หากเก็บผักในช่วงที่มีแดดจัด ผักจะมีการนำไนเตรทมาใช้ประโยชน์มากกว่า
   • ดึงผักไฮโดรโปนิกส์ออกจากรางปลูกทั้งถ้วย เอาถ้วยออก ไม่ต้องตัดราก หากเป็นการปลูกบนฟองน้ำ ไม่จำเป็นต้องเอาฟองน้ำออกก็ได้ ซึ่งอาจจะมีลูกค้าบางรายระบุให้ส่งผักไฮโดรโปนิกส์ทั้งฟองน้ำ